อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์อังกฤษเมื่อวานนี้ แต่ยังคงขาดแคลนเมื่อเทียบกับเยนญี่ปุ่นที่แข็งค่าขึ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลาง
หลังจากข่าวการอ้างสิทธิ์ว่างงานในสหรัฐลดลงเหลือต่ำสุดในรอบกว่าสามปีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดอลลาร์กลับมาได้รับแรงหนุนอีกครั้ง รายงานทางบวกนี้ยกระดับความหวังของนักลงทุน บ่งบอกถึงความแข็งแรงของตลาดแรงงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของดอลลาร์ถูกจำกัดด้วยการแถลงการณ์ที่รอบคอบจากตัวแทนของทำเนียบขาว
ในวันนี้ มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญคาดว่าจะออกมาในช่วงครึ่งแรกของวัน ซึ่งอาจมีผลกระทบสำคัญต่ออัตราแลกเปลี่ยนของยูโรและสุขภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสนใจจะถูกให้กับตัวเลข GDP ของยูโรโซนสำหรับไตรมาสที่สามของปีนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม หากผลลัพธ์แตกต่างจากที่คาดไว้ อาจก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดค่าเงิน นักเทรดจะทำการวิเคราะห์ส่วนประกอบต่างๆ ของ GDP โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุน เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของโอกาสการเติบโต
นอกจากข้อมูล GDP รายงานการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานในยูโรโซนจะถูกเผยแพร่ด้วย ตลาดแรงงานที่มั่นคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการใช้จ่ายผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ รายงานเกี่ยวกับภาคเศรษฐกิจที่สำคัญที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในยุโรปจะถูกเผยแพร่ด้วย ฝรั่งเศสจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นซึ่งบ่งบอกถึงกิจกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งและความต้องการสินค้า ในทางตรงกันข้ามการชะลอตัวอาจบ่งชี้ถึงปัญหาในภาคการผลิตซึ่งกดดันเงินยูโร อิตาลีคาดว่าจะนำเสนอสถานการณ์การขายปลีกที่สะท้อนแนวโน้มคล้ายคลึงกัน
สำหรับปอนด์ ข้อมูลดัชนีราคาบ้าน Halifax คาดว่าจะมีการเผยแพร่ในช่วงครึ่งแรกของวัน นี้เป็นดัชนีสำคัญที่บ่งชี้สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ ข้อมูลดัชนี Halifax ไม่เพียงแต่ช่วยประเมินการเปลี่ยนแปลงของราคาทั่วไป แต่ยังเปิดเผยความแตกต่างในระดับภูมิภาคและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง และผลลัพธ์ของดัชนี Halifax ที่อ่อนแออาจส่งผลลบต่อปอนด์
หากข้อมูลสอดคล้องกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ควรใช้กลยุทธ์ Mean Reversion แต่หากผลลัพธ์มีความแตกต่างมากจากที่คาดไว้ การใช้กลยุทธ์ Momentum จะเหมาะสมกว่า